ความเป็นมาและความสำคัญ
เยาวชนเป็นทรัพยากรบุคคลที่ควรให้ความสําคัญในการพัฒนาให้เป็นผู้ที่มีคุณภาพในอนาคต
ปัญหาสําคัญที่ประเทศไทยกําลังประสบอยู่
และนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขื้นเเละส่งผลกระทบต่อกระบวนการทางสังคมอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษาของชาติ คือ
ปัญหาการทําร้ายร่างกายหรือก่อเหตุทะเลาะวิวาทของนักเรียนนักศึกษา
ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาอาชญากรรมร้ายเเรงทําลายความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยส่วนรวม
และเป็นปัญหาอาชญากรรมที่ท้าทายต่อการบังคับ ใช้อํานาจรัฐเป็นอย่างยิ่งและปัญหาจากการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของนักเรียน
ดังกล่าวได้กลายเป็นปัญหาที่ใด้รับความสนใจในหมู่นักสังคมวิทยา
และนักสังคมศาสตร์ทั่วไปเป็นอย่างมาก โดยเห็นไดัจากแนวทฤษฎี ต่าง ๆ
เพื่อใช้อธิบายถึงสาเหตุเเห่งการกระทําดังกล่าว
ได้ถูกสร้างขึ้นเเละพัฒนาต่อมามีอยู่เป็นจํานวนมาก ทฤษฎีเหล่านี้ได้อธิบายถึงพฤติกรรมของผู้กระทําผิดของนักเรียนอย่างเป็นลำดับ
โดยเฉลี่ยนักเรียนนักศึกษาจะมีอายุระหว่าง
16-20 ปี
ซึ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอบปลายเเละเป็นวัยที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนเเปลงทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
ซึ่งต้องปรับตัวมากเพราะเป็นวัยที่กําลังพ้น
สภาพความเป็นเด็กก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ถ้าหากชวนกันทะเลาะวิวาทอันเป็นปัญหาก่อความเดือดร้อน ให้แก่ชุมชน
โดยทั่วไปวัยรุ่นชอบคบหาสมาคมกับเพื่อน
และเห็นว่าเพื่อนเป็นสิ่งที่จําเป็นและจะขาดเสียไม่ได้
การกระทำทุกอย่างมักต้องอาศัยเพื่อน
ปัญหาจึงปรากฏอยู่เสมอว่าถ้าหากไปรวมกับกลุ่มเพื่อนที่ไม่ดี ก็อาจจะนำไปในทางที่เสียหาย
แม้เด็กบางคนจะไม่อยากทําอะไรที่ไม่ดี
แต่เมื่อเพื่อนพูดสบประมาทหรือกลัวว่าเพื่อนจะโกรธจนต้องยอมปรับตัวเข้ากับเพื่อน
ก็อาจทําอะไรไม่ดีไม่ด้วย ดังจะเห็นใด้จากการก่อการทะเลาะวิวาทกับ เป็นต้น
ปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษามีมานานเเล้ว
เเต่มักจะออกมาในรูปของการทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันเเละกันเป็นประจํา
ซึ่งเรื่องนี้จะพบว่าการก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน
ส่วนใหญ่จะก่อเหตุกันทั้งในและนอกสถานศึกษาของกลุ่มที่ก่อการทะเลาะวิวาทกันดังกล่าว
ซึ่งการปะทะกันอาจมีทั้งกลุ่มย่อยหรือกลุ่มใหญ่ ในบางครั้งมีการเตรียมตัวล่วงหน้ามาก่อน
ส่วนมากจะอ้างเหตุผลว่าเป็นการพกพาอาวุธเพื่อป้องกันตัว
เเละอาวุธส่วนใหญ่ที่พบจะมีลักษณะต่างๆ เช่น
มีการดัดแปลงอุปกรณ์การเรียนมาใช้เป็นอาวุธ เช่น ไม้บรรทัดเหล็ก มีดคัตเตอร์ ไม้ที
สําหรับอาวุธร้ายแรงที่พบ เช่น วัตถุระเบิด อาวุธปืนปากกา ปืนพก
โดยมีการจัดเตรียมอาวุธดังกล่าวไว้เพื่อทําร้ายซึ่งกันเเละกันจนได้รับบาดเจ็บ
บางรายถึงกับเสียชีวิต ซึ่งผลจากการทะเลาะวิวาทดังกล่าว
ดังเช่น บาร์เดน (Barden.1994.38) ได้กล่าวว่า ความรุนแรงเป็นปรากฏการณ์ที่มีความซับซ้อนและ มีสาเหตุจากปัจจัยหลายด้าน
ซึ่งปัจัยที่มีอิทธิพลต่อความรุนแรง ได้แก่ ปัจจัยส่วนตัว ปัจจัยด้านครอบครัว
ปัจจัยด้านอิทธิพลทางสังคม โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนและคนใกล้ชิด
ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อพฤติกรรมความรุนแรงของกลุ่มวัยรุ่น สอดคล้องกับ บัณฑิต
ศรไพศาล(2008:ออนไลน์) กล่าวว่า ความรุนแรงของวัยรุ่น เริ่มมีสถิติสูงขึ้น
โดยมีสาเหตุจากหลายปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยส่วนตัวของวัยรุ่นที่ใช้ความรุนแรง
สิ่งเร้าทางสังคม สื่อ และเกมส์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรง
รวมทั้งสาเหตุสำคัญคือการอบรมเลี้ยงดูจากครอบครัว นอกจากนี้ อุมาพร ตรังสมบัติ(2549:1)
ศึกษาเกี่ยวกับความรุนแรงในวัยรุ่นไทยพบว่าสาเหตุการเกิดความรุนแรง
เกี่ยวข้องกับปัจจัยส่วนตัวของวัยรุ่นเอง เช่น ค่านิยม
และทัศนคติที่นิยมใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา ร่วมไปกับค่านิยมเรื่องศักดิ์ศรี
เมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกถูกท้าทายศักดิ์ศรี ก็ทำให้เกิดพฤติกรรมความรุนแรงขึ้นมา
มักเป็นความโกรธ การควบอารมณ์ตนไม่ได้ และถูกเพื่อนชักชวนให้กระทำผิด
จากปัญหาความรุนแรงที่กล่าวมาข้างต้นนั้นได้ส่งผลกระทบทั้งต่อตัววัยรุ่นที่มีพฤติกรรมความรุนแรงทั้งด้านร่างกาย
และสภาพจิตใจ และส่งผลต่อครอบครัว ตลอดจนผู้ใกล้ชิด และมีแนวโน้มว่าพฤติกรรมความรุนแรงของวัยรุ่นจะสูงขึ้นในอนาคต
ดังนั้นจึงทำให้คณะผู้จัดทำมีความสนใจที่จะศึกษา ถึงปัจจัยและสาเหตุความรุนแรงของนักเรียนวัยรุ่น
ทั้งนี้จะช่วยให้สามารถเข้าถึงสาเหตุของปัญหา
และแนวทางให้ความช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์ของงานวิจัย
1.เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการทะเลาะวิวาทของนักเรียน
2.เพื่อศึกษาความรุนแรงของการทะเลาะวิวาทและแนวทางการแก้ไขของนักเรียน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.
ทําให้ทราบถึงปัจจัยที่มีผลต่อการทะเลาะวิวาทของนักเรียน
2. ทําให้ทราบถึงความรุนเเรงของการทะเลาะวิวาทของนักเรียน
3. เป็นแนวทางในการหามาตรการป้องกัน
เเก้ไข สาเหตุที่ก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทของนักเรียน
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
1.การศึกษาครั้งนี้ศึกษานักเรียน
ซึ่งเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
จำนวนทั้งหมด 605 คน
นักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง 30 คน
2.โดยกำหนดคุณลักษณะของกลุ่มตัวอย่าง
คือ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพศชายหรือเพศหญิง
ที่กําลังศึกษาในสายวิทย์หรือศิลป์
ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนพะเยาพิทยาคม
นิยามศัพท์เฉพาะ
การทะเลาะวิวาท หมายถึง การเข้าประทุษร้ายกับของบุคคลตั้งแต่
2 คนขึ้นไประหว่างนักเรียน
ซึ่งอันเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจหรืออันตรายสาหัส
สภาพครอบครัว หมายถึง
ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวและกับบุคคลที่นักเรียนพักอาศัยอยู่ด้วย
ซึ่งเกี่ยวกับการทะเลาะวิวาทของสมาชิกในครอบครัว การรับฟังความคิดเห็นการให้ความใกล้ชิด
การให้คําปรึกษา การให้ความยุติธรรม การลงโทษเมื่อกระทําผิด
ความประพฤติของเพื่อน หมายถึง
พฤติกรรมเพื่อนของในการปฎิบัดิตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษา
ที่มีลักษณะเป็นการชักนําไปสู่การกระทําผิดหรือบุคลิกภาพที่แสดงออกต่อกลุ่มเพื่อน
อาวุธ หมายถึง สิ่งที่เป็นอาวุธโดยสภาพ
สามารกใช้ทําอันตรายเเก่ชีวิต ร่างกายได้ เเละหมายความรวมถึง
สิ่งซึ่งไม่เป็นอาวุธโดยสภาพ
แต่ซึ่งได้ใช้หรือเจตนาจะใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธ
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา1 (5) เช่น วงเวียน
บาดเจ็บเล็กน้อย หมายถึง
ได้รับอันตรายแก่กาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295
เเละไม่ถึงกับเกิดอันตรายเเก่กาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391
คือบาดเจ็บเป็นบาดแผลฟกซ้ำ หรือบาดเเผลมีเลือดออกแต่ไม่ถึงกับใด้รับอันตรายสาหัส
บาดเจ็บสาหัส
หมายถึง ได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา297 คือ ได้รับบาดเจ็บดังนี้
ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด เสียฆานประสาท เสียอวัยวะสืบพันธุ์หรือความสามารถสืบพันธุ์
เสียเเขน ขา มือ เท้า หรืออวัยวะอื่นใด หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว
จิตพิการอย่างติดตัว ทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต ทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน
หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ใด้เกินกว่ายี่สิบวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น